บัว เรียกได้ว่าเป็นพืชที่มีประโยชน์ครบแทบทุกส่วนทั้งเหง้า ก้านใบ ก้านดอก ใบ กลีบ เกสร เมล็ด ดีบัว ฝักบัว ใช้ได้ทั้งต้นแบบคุ้มสุดคุ้ม แต่วันนี้เราจะพาเหง้าบัวมาแนะนำให้คุณได้รู้จักกันมากขึ้นเพราะหลายคนอาจยังไม่รู้จัก แต่เหง้าบัวจะมีอะไรน่าสนใจบ้างมาติดตามไปพร้อมกันเลยดีกว่า
เหง้าบัวมีประโยชน์อะไรกับพวกเราบ้าง?

- แน่นอนนอนที่สุดเหง้าบัวเป็นอาหารที่ดีของพวกเราทำให้อิ่มท้องปรุงเมนูได้หลากหลาย
- ช่วยแก้อาการท้องเสียได้เป็นอย่างดี
- ถ้าคุณกำลังมองหายาบำรุงกำลังให้ธรรมชาติอยากเหง้าบัวช่วยบำรุงกำลังให้คุณกันดีกว่า
- ใครที่เจอกับความเสี่ยงเรื่องของเบาหวานน้ำตาลในเลือดสูงนั้นต้องให้เหง้าบัวช่วยดูแลและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดกันอีกแรง
- ความเย็นของเหง้าบัวช่วยลดอาการร้อนในให้กับคุณได้
- หากคุณมีแผลหรือมีการอักเสบในร่างกายเกิดขึ้นเราขอแนะนำว่าหากเหง้าบัวมาทานช่วยคุณได้เหมือนกัน
- ถ้าแก้ท้องเสียได้ ก็สามารถช่วยแก้อาการท้องร่วงได้เหมือนกัน
- ข้อนี้ยกให้เป็นประโยชน์ของสาว ๆ ถ้าคุณมีอาการประจำเดือนมาไม่ปกติล่ะก็เหง้าบัวมีส่วนช่วยคุณได้
- ปัญหาริดสีดวงทวารนั้นบอกเลยว่าเป็นปัญหาที่ทั้งกวนใจและทำให้คุณต้องเจ็บปวดมากดังนั้นมาหาตัวช่วยง่าย ๆ อย่างการทานเหง้าบัวกันดีกว่า
- เหง้าบัวมีส่วนช่วยในการห้ามเลือดให้กับคุณได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

จริง ๆ แล้วเหง้าบัวก็เป็นรากของบัวนั่นเองซึ่งเมนูยอดนิยมที่คนมักเอามาทำกันก็จะเป็นไปทางของหวานและเครื่องดื่มอย่างเช่น น้ำรากบัว กันเสียมากกว่า แต่ก็ยังสามารถนำมาทำเมนูอาหารคาวอย่างเช่น ซี่โครงหมูตุ๋น รากบัวผัดพริก แกงจืดรากบัว เป็นต้น
ซึ่งอย่างที่บอกกันไปแล้วว่าเมื่อทานก็จะมีส่วนช่วยคุณทั้งในเรื่องของความดันและเรื่องของโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดีนั่นเอง
จริง ๆ แล้วเหง้าบัวมีลักษณะอย่างไร?
เหง้าบัวนั้นจะอยู่ใต้ดิน จะเป็นท่อนยาว มีปล้อง สีออกไปทางเหลืองอ่อน มักจะโตได้ดีในดินเหนียว และอยู่ที่ระดับความลึกของน้ำประมาณ 50 เซนติเมตร
คุณค่าทางโภชนาการหลัก ๆ แล้วเหง้าบัวประมาณ 100 กรัมนั้นจะมีพลังงานอยู่ประมาณ 66 กิโลแคลลอรี่ ซึ่งก็มีทั้งคาร์โบไฮเดรต น้ำตาล เส้นใยอาหาร ไขมัน โปรตีน วิตามินบีต่าง ๆ โคลีน วิตามินซี แคลเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม แมงกานีส ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม และสังกะสี
การทานเหง้าบัวจริง ๆ แล้วไม่ค่อยมีพิษมีภัยเท่าไรนักแต่การทานทุกอย่างต้องอยู่ในความพอดีจะดีที่สุดและได้ประโยชน์มากที่สุดนั่นเอง